จะเห็นว่าฐานล่างสุดของปิรามิดซึ่งสำคัญที่สุดนั้นไม่ใช่อาหาร แต่เป็นน้ำ ซึ่งคนวัยทองควรดื่มวันละประมาณ 8 แก้ว เพราะเรื่องใหญ่ที่สุดก็คือคนวัยทองมักเผลอคือลืมดื่มน้ำ ทำให้ท้องผูก บางครั้งก็ทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ไตเสื่อมเร็ว เป็นการทำตัวเองให้เป็นโรคไตเรื้อรังโดยไม่ได้ตั้งใจ
ถัดขึ้นไป คืออาหารที่รับประทานได้มาก เป็นอาหารคาร์โบไฮเดรตพวกให้พลังงาน เช่น ข้าวและเมล็ดธัญพืชต่างๆ แนะนำให้รับประทานได้ถึงวันละ 6 ที่ คือถ้าเป็นขนมปังก็ 6 แผ่น ถ้าเป็นข้าวก็ประมาณ 3 ถ้วยตวงหรือ 3 จานขนาดไม่ใหญ่นัก
ถัดขึ้นไปเป็นอาหารวิตามินและเกลือแร่ แบ่งเป็นสองซีก ซีกซ้ายเป็นผักต่างๆ ซึ่งแนะนำให้รับประทานวันละ 3 ที่หรือเทียบได้กับสลัด 3 จานเลยทีเดียว ซีกขวาเป็นผลไม้ แนะนำให้รับประทานวันละอย่างน้อย 2 ที่ เทียบได้กับผลไม้ขนาดเขื่อง เช่น แอปเปิ้ล กล้วย วันละสองผล การรับประทานผักและผลไม้มากมีคุณอนันต์ ช่วยลดการเกิดอัมพฤกษ์อัมพาต ลดการเป็นโรคหัวใจหลอดเลือด และอาจช่วยลดโอกาสเป็นเบาหวานได้อีกด้วย
ชั้นถัดขึ้นไปอีกเป็นอาหารโปรตีน แบ่งเป็นสองซีก ซีกซ้ายเป็นอาหารนม ชีส และโยเกิร์ต แนะนำให้ดื่มวันละ 3 ที่ เทียบได้กับนมวันละสามแก้ว ส่วนซีกขวาเป็นอาหารโปรตีนจากปลา ถั่ว และเนื้อ แนะนำให้รับประทานวันละสองที่ เทียบได้กับปลาทูสองตัว หรือไข่ทอดสองฟอง หรือเนื้อสะเต๊กประมาณหนึ่งแผ่น
ชั้นบนสุดเป็นส่วนที่ควรรับประทานแต่น้อย แบ่งเป็นสองซีก ซีกซ้ายคือไขมัน น้ำมัน น้ำตาล ซึ่งควรรับประทานให้น้อยที่สุด ส่วนซีกขวาคือวิตามินและแร่ธาติเสริมเช่น แคลเซียม วิตามินดี วิตามินบี 12 ซึ่งเป็นสิ่งมีประโยชน์สำหรับคนวัยทอง
อ้างอิง: Health.Co.Th Journal 2010:2:2-2.
No comments:
Post a Comment