Wednesday, June 20, 2012

การคีโมช่วยรักษามะเร็ง ได้จริงหรือ


ข้อมูลที่ได้จาก Facebook ของ MarketingGun หัวข้อ "เรื่องจริงที่ หมอ ไม่ได้บอก......(คีโม กับ คีโม กับ มะเร็ง)"  ได้ให้ความรู้ในเรื่องของการทำคีโมรักษาโรคมะเร็ง เขียนไว้ได้อย่างน่าสนใจ และเข้าใจง่าย น้ำใจเชื่อว่าหลายคนที่กำลังเป็นมะเร็งอยู่ หรือมีญาติ หรือคนรู้จัก ทุกข์ทรมานกับโรคร้ายนี้  และต้องตัดสินใจว่า จะผ่าตัดหรือทำคีโม ฆ่าเซลล์มะเร็งร้ายนี้ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่

การแพทย์ทางเลือก เช่นการใช้สมุนไพรรักษาโรค มันช่างดูไม่เป็นวิทยาศาสตร์ และไม่ทันใจเอาเสียเลย การแพทย์สมัยใหม่ ใช้ฉีดสารเคมีเข้าช่วย เพื่อฆ่าเนื้อร้าย (แต่เนื้อดีก็ตายไปด้วย) จึงเป็นทางเลือกที่หลายคนตัดสินใจจะลองดู

หากเราบอกว่า แพทย์ทางเลือก สมุนไพรรักษาโรคมะเร็ง มีตัวอย่างให้เห็น ว่าช่วยได้ หายจริง ไร้ผลข้างเคียง

หากเราบอกว่า แพทย์สมัยใหม่ ที่ใช้เคมีบำบัด ที่ดูเหมือนว่า จะมีคนเป็นมะเร็ง รักษา "หาย" ได้ด้วยคีโม แต่ก็ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียง ที่มีมากมาย ดังบทความข้างล่างนี้

ลองอ่านดู บทความข้างล่างนี้ จะให้ข้อมูลที่เป็นสาระประโยชน์ เกี่ยวกับโรคมะเร็ง และการดูแลรักษาตัว ให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งได้อย่างง่ายๆ  แล้วจึงค่อยตัดสินใจ ว่าท่านจะเลือกทางใด ชีวิตเป็นของท่าน ทางเลือกเป็นของท่าน ท่านต้องเลือกเอง และยอมรับกับผลที่เกิดขึ้น

คีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิต

หลังจากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะ ลอง และใช้ในการกำจัดโรคมะเร็ง ในที่สุดโรงพยาบาลจอห์น ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆอีก

ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์

1. ทุกๆ คนมีเซลล์มะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลล์มะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐาน จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล(1,000,000,000 เซลล์ เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้ว มันหมายถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลล์มะเร็งได้เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่มากพอ จนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น

2. เซลล์มะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง 6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆ หนึ่ง

3. เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลล์มะเร็งจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก

4. เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง มันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆ ในการดำรงชีวิต

5. เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่อง หลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

6. การทำคีโมคือการให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลล์มะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วแต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลล์ที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูก ทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด ฯลฯ

7. การบำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ  อย่างไรก็ตามถ้าทำไปนานๆ พบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลล์เนื้องอก

8. เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโม หรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆ นั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น

9. การทำคีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลล์มะเร็งกลายพันธุ์ ดื้อยา และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลล์มะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย

10. วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง คือการไม่ให้เซลล์มะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัวอะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลล์มะเร็ง

ก. น้ำตาล คือ อาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให้กับเซลล์มะเร็ง สารทดแทนน้ำตาล อย่างเช่น "นิวตร้าสวีต" "อีควล" "สปูนฟูล" ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวานซึ่งเป็นอันตราย สารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่า คือน้ำผึ้งมานูคา (จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อย แต่ในปริมาณน้อยๆ เท่านั้น เกลือสำเร็จรูป ก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้  "แบรก อมิโน" หรือ เกลือทะเล แทน
ข. นม เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็งจะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลือง ชนิดไม่หวาน แทนนม จะทำให้เซลมะเร็งไม่ ได้รับอาหาร
ค. เซลล์มะเร็งเติบโตได้ดี ในภาวะแดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวก เนื้อ จะสร้างสภาวะกรดขึ้น ดังนั้นจึงควรหันไปรับประทาน ปลา จะดีที่สุด รองลงไปคือรับประทาน ไก่ แทนเนื้อและ หมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์ และเชื้อปรสิต บางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง
ง. อาหารที่ประกอบด้วยผักสด 80% และน้ำผลไม้ พืช จำพวกหัวเมล็ดถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้จำนวนเล็กน้อยจะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่าง อาหารอีก20% อาจได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่ว น้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึมทราบสู่ระดับเซลล์ภายใน 1 นาที เพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลล์ที่ดี ให้พยายามดื่มน้ำผักสด ( ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่วที่มีหน่อหรือต้นอ่อน) และรับประทานผักสดดิบ 2-3 ครั้งต่อวัน  เอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ 140 องศา F (ประมาณ 4 องศา C)
จ. ให้หลีกเลี่ยง กาแฟ น้ำชา และช๊อกโกแลต ซึ่งมี คาเฟอีนสูง  ชาเขียว ถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง น้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซิน และโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรดให้หลีกเลี่ยง

11. โปรตีนจากเนื้อ จะย่อยยาก และต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย เนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้น

12. ผนังของเซลล์มะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงด หรือ การรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลงจะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอ มาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลล์มะเร็ง และช่วยให้ เซลล์ของร่างกายสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น

13. สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ( สาร IP6 [inositol hexaphosphate หรือ phyti acid], สาร Flor-essence, สาร Essiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์ , วิตามิน , เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลล์ของร่างกายสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น สารอาหารอื่นๆ เช่น วิตามินอี เป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตายลงของเซลล์ หรือ กำหนดระยะเวลาการตายของเซลล์ ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการ กำจัดเซลล์ที่ถูกทำลาย ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป

14. มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์ กับ จิตใจ  ร่างกาย และจิตวิญญาณ การป้องกันเชิงรุก และ การคิดในเชิงบวก จะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำสงครามกับมะเร็ง.... ความโกรธ การไม่รู้จักให้อภัย และความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้น ให้เรียนรู้ที่จะมีความรักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัย เรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต

15. เซลล์มะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมาก การออกกำลังกายทุกวัน และการหายใจลึกๆ จะช่วยให้ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้น ลงไปจนระดับเซลล์ การบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลาย เซลล์มะเร็ง

( กรุณาช่วย Forward ไปยังบุคคลที่คุณรักและห่วงใย )
นี่คือเรื่องที่คุณควรส่งออกไปให้คนที่มีความสำคัญกับชีวิตคุณได้รับรู้รับทราบ