Thursday, November 5, 2015

ทราบไหมคะหมอญี่ปุ่นมีอะไรอยากบอกคุณ?

คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 240 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “อย่าให้หมอฆ่าคุณ”  ค่ะ 

=ภาพรวม=

หนังสือเล่มนี้เขียนโดยแพทย์ประจำภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคโอ ผู้ได้รับรางวัลเกียรติคุณแห่งญี่ปุ่นในฐานะผู้บุกเบิกการรักษามะเร็งเต้านมโดยไม่ตัดทิ้งค่ะ

แต่คุณหมอคนโดไม่ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับวิธีรับมือกับโรคมะเร็งเท่านั้น  แต่ยังให้ความรู้สุขภาพแบบองค์รวมในมุมมองที่คุณคาดไม่ถึงมาก่อนค่ะ  เป้าหมายของคุณหมอก็คือให้คุณห่างไกลยาและการรักษาที่ไม่จำเป็น

=น่าสนใจจากในเล่ม= 

*  90% ของผู้ป่วยโรคมะเร็งในญี่ปุ่น หากปล่อยเนื้อร้ายทิ้งไว้จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างแข็งแรงมากกว่าการเข้ารับการรักษา

*  ยาต้านมะเร็งหรือเคมีบำบัด (คีโม) เป็นพิษที่ร้ายแรง  มีฤทธิ์แค่ “ทำก้อนเนื้อร้ายเล็กลงชั่วคราว” ไม่ได้ช่วยรักษาหรือมีประโยชน์ในการยื้อชีวิตออกไปแต่อย่างใด

*  มีการปรับมาตรฐานค่าความดันโลหิตสูงสุดจาก 160 มิลลิเมตรปรอทลงมาเป็น 140 ในปี 2000 และ 130 ในปี 2008  ทำให้อยู่ดี ๆ คนจำนวนมากก็กลายเป็น “ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง”  ทั้งหมดนี้เอื้ออำนวยต่อธุรกิจขายยาลดความดันล้วน ๆ

*  มะเร็งที่ไม่สร้างความเจ็บปวดแม้จะปล่อยไว้ก็มีไม่น้อย  เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร  มะเร็งทางเดินอาหาร  มะเร็งตับ  มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

*  ก้อนมะเร็งมีทั้งของจริงและของปลอม  แต่ไม่ว่าจะจริงหรือปลอมวิธีรักษาด้วยการผ่าตัดหรือทำคีโมจะเปล่าประโยชน์เสีย 90%

*  ก้อนมะเร็งไม่ได้ทำให้เราต้องทุกข์ทรมานจนกระทั่งเสียชีวิตหรอก  แต่สาเหตุคือ “กระบวนการรักษามะเร็ง” ต่างหาก

*  ยาลดคอเลสเตอรอลที่ขายกันทั่วโลก (ยาประเภท statins) มีโอกาสป้องกันโรคได้น้อยยิ่งกว่าการถูกล้อตเตอรี่  ในอเมริกาคณะกรรมการที่รณรงค์ให้ลดค่ามาตรฐานของไขมันไม่ดี (LDL Cholesterol) (เพื่อให้คนจำนวนมากขึ้นถูกวินิจฉัยว่าป่วย) รับเงินจากธุรกิจยาถึง 8 ใน 9 คน จนเกิดการประท้วง

*  คนร่างกายแข็งแรงควรหลีกเลี่ยงการฉายรังสี (เอ๊กซเรย์) และการทำซีทีสแกน  แม้ครั้งเดียวก็เสี่ยงที่จะทำให้เป็นมะเร็ง

*  หากไม่รักษามะเร็ง เราก็สามารถควบคุมความเจ็บปวดได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด  สติอยู่ครบถ้วน  ไม่มีการเลอะเลือนจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตซึ่งจะจากไปอย่างสงบ  และเมื่อเทียบกันแล้ว หัวสมองปลอดโปร่งกว่ามาก  และไม่ต้องสูญเสียกิจกรรมอย่าง “การเดินเล่น” ด้วย

*  การบำรุงร่างกายและสมองจำเป็นต้องได้รับไขมันและโปรตีนอย่างเพียงพอ  แต่ไม่ต้องไปกินอาหารเสริมใด ๆ เพียงกินไข่และดื่มนมทุกวันก็เพียงพอแล้ว

*  ทุกคนควรเขียน “พินัยกรรมชีวิต” ไว้  หมายถึง เอกสารแสดงเจตจำนงว่าอยากให้รักษาอย่างไรช่วงก่อนจะเสียชีวิต  ควรเขียนออกมาอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด  เช่น “ไม่จำเป็นต้องฝืนให้อาหารเช่นสอดท่อให้อาหารผ่านทางจมูก”  “ถ้าใส่เครื่องช่วยหายใจครบ 1 สัปดาห์แล้วยังไม่ได้สติ ให้ถอดเครื่องออกเลย” 

หนังสือชื่อ “อย่าให้หมอฆ่าคุณ” เขียนโดย Kondo Makoto แปลโดย ชุติมน ยงมานิตชัย สำนักพิมพ์ Inspire Nanmeebooks Adult ในเครือนานมีบุ๊คส์ พิมพ์ครั้งที่ 2 มิถุนายน 2558  232 หน้า  ราคา 185 บาท  มีจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำและเวบไซต์ร้านหนังสือทั่วไป
------------------------------------------

Monday, November 2, 2015

นั่งนานไม่ยอมลุก เสี่ยงตายก่อนวัยอันควร

ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กเรียนที่นั่งหน้าคอม ดูซีรี่ส์ เล่นเกม หรือนั่งแชทกับเพื่อนทั้งวันทั้งคืนช่วงปิดเทอม หรือจะเป็นพนักงานออฟฟิศที่ต้องรีบเร่งทำงานส่งก่อนเวลาที่กำหนด หรือแม้กระทั่งอาชีพที่ต้องนั่งเฝ้าจอคอม จอทีวี จอมอนิเตอร์อยู่ตลอดเวลา อย่าง ยาม ผู้ดูแลผังรายการโทรทัศน์ ไอที นักเล่นหุ้น โอเปอเรเตอร์ พนักงานต้อนรับ และอื่นๆ หากคุณไม่ยอมลุกจากเก้าอี้บ้าง ระวังเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคร้ายก่อนวัยอันควรมากกว่าเดิมถึง 33%

นั่งนาน ไม่ยอมลุกขึ้นขยับร่างกาย เสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง

- โรคอ้วน
- เบาหวาน
- คอเลสเตอรอลสูง
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ข้อต่อกระดูกมีปัญหา
- ปวดเมื่อยเรื้อรัง (หากนั่งผิดท่า)
- โรคหัวใจ
- โรคไต
- โรคมะเร็ง
- โรคเครียด ซึมเศร้า
- ฯลฯ

คำแนะนำ

- ควรลุกขึ้นจากเก้าอี้ทุกๆ 1 ชั่วโมง เดินไปเดินมา 1-2 นาที ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบการย่อยอาหารของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น หากกลัวลืมขยับ จะตั้งเวลาเตือนทุกๆ 1-2 ชั่วโมงก็ได้
- ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ หยิบน้ำดื่มมาทานบ้าง ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง
- ลุกขึ้นยืนโทรศัพท์ เดินคุย หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ขณะยืนหรือเดินบ้าง
- ระหว่างโดยสารรถกลับบ้าน ลองเลือกที่จะยืนแทนการนั่ง หรือเดินในระยะใกล้ๆ แทนใช้บริการรถรับจ้าง
- หากต้องนั่งนานๆ อย่างเลี่ยงไมได้ เช่น งานเร่งมาก หรืออยู่ในห้องประชุม ลองขยับแข้งขยับขา เปลี่ยนท่านั่ง หมุนข้อมือข้อเท้า และลุกขึ้นเดินหรือยืนเมื่อมีโอกาส
- เปลี่ยนจากการนั่งดูทีวี เป็นออกกำลังกายไปด้วย ดูทีวีไปด้วย
- อย่านั่งในห้องน้ำนานเกินไป
- ลดการสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดัน และมะเร็ง
- หาเวลาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

แค่ขยับ ก็เท่ากับออกกำลังกายนะคะ แต่ก็อย่าลุกแล้วเดินไปเดินมา หรือเม้าท์กับเพื่อนเพลินจนเจ้านายดุเอาล่ะ ทุกอย่างต้องมีความพอดีนะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสาร สุขภาพดี และ healthmeplease.com
ภาพประกอบจาก istockphoto

เนื้อหาโดย : Sanook!