Thursday, June 4, 2015

อาหารสำหรับโรคตับอักเสบ

โรคตับอักเสบเกิดจากเชื้อไวรัสหลายชนิด เชื้อไวรัสจะทำให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลันและทำลายเซลล์ตับ ในรายที่อาการไม่รุนแรงและได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ เซลล์ตับจะฟื้นตัวได้ แต่ถ้าอาการรุนแรง จะทำให้เซลล์ตับตาย เนื้อเซลตับที่ดีเหลือน้อยลง ทำให้ตับเกิดโรคตับแข็งได้

การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบ
ผู้ป่วยจำเป็นจะต้องนอนพักไม่ออกแรง มิฉะนั้นจะทำให้อาการรุนแรงขึ้น และใช้เวลารักษานานขึ้น ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับของเหลววันละ 3000-3500 มิลลิลิตร เพื่อป้องกันการขาดน้ำและจะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นมีความอยากรับประทานอาหารมากขึ้น นอกจากนี้การได้รับโภชนาการเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ตับฟื้นตัวเร็วขึ้นและผู้ป่วยมีกำลังวังชามากขึ้น
ผู้ป่วยที่มีอาการตับอักเสบเฉียบพลัน จะค่อย ๆ ทุเลาขึ้นเองเมื่อพักผ่อนและรับประทานอาหารให้พอเพียง ผู้ป่วยบางรายเข้าใจว่าการดื่มน้ำหวานในปริมาณมาก ๆจะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะการรับประทานน้ำตาลมากๆจะทำให้น้ำตาลเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในตับ และอาจทำให้ตับโตได้

โภชนบำบัดสำหรับโรคไวรัสตับอักเสบ
อาหารที่ผู้ป่วยได้รับขึ้นกับระดับความรุนแรงของโรคแและโรคแทรกซ้อน สารอาหารที่สำคัญที่จะต้องดูแลสำหรับโรคตับอักเสบได้แก่ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต โซเดียม (เกลือ) และ แอลกอฮอลล์
โปรตีน จำเป็นต้องได้รับเพียงพอ วันละ 100-150 กรัม เพื่อการสร้างเซลล์ใหม่ของตับ และควรเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ในกรณีที่มีอาการรุนแรงเฉียบพลัน และระดับแอมโมเนียในเลือดสูง โปรตีนจะได้รับการจำกัดในระดับต่ำๆเช่นเดียวกับโรคตับแข็ง
คาร์โบไฮเดรต ผู้ป่วยตับอักเสบต้องการคาร์โบไฮเดรตสูงประมาณ 300-400 กรัม/วัน เพื่อให้พลังงานพอเพียงกับที่ร่างกายต้องการและมีไกลโคลเจนสะสมเพียงพอ และช่วยให้ร่างกายได้นำโปรตีนไปใช้ในการเสริมสร้างเนื้อเยื่อที่จำเป็นต่อร่างกาย คาร์โบไฮเดรตที่รับประทานควรเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดที่มีกากใยอาหารมากกว่าคาร์โบไฮเดรตประเภทน้ำตาล
ไขมัน อาหารควรมีไขมันในปริมาณปานกลางวันละประมาณ 80-100 กรัม ไขมันจะช่วยเพิ่มรสชาดลดอาการเบื่ออาหารซึ่งมักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโรคตับอักเสบ กรณีที่ผู้ป่วยมีความผิดปกติในการดูดซึมไขมัน แพทย์จะให้ไขมันที่มีโครงสร้างของกรดไขมันสายสั้นปานกลาง เช่น ไขมันเอ็มซีที (MCT) เป็นระยะเวลาสั้นๆจนกว่าอาการจะดีขึ้น
พลังงาน ผู้ป่วยโรคตับอักเสบจำเป็นต้องได้รับพลังงานสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะที่มีปัญหาทุพโภชนาการ ความต้องการพลังงานวันละประมาณ 2500-3000 กิโลแคลอรี เพื่อให้เพียงพอต่อการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ชดเชยกับพลังงานที่สูงขึ้นเมื่อร่างกายมีไข้และเพื่อให้ผู้ป่วยมีกำลังเพิ่มขึ้น
วิตามินและเกลือแร่ ร่างกายมีความต้องการวิตามินและเกลือแร่บางชนิดสูงขึ้น แพทย์จะทำการเสริมให้ผู้ป่วยตามความเหมาะสม
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบต้องงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
ในระยะที่รับการรักษา ผู้ป่วยจะมีอาการเบื่ออาหาร จำเป็นที่ต้องให้อาหารเหลว อาจผสมอาหารทางการแพทย์เพื่อเพิ่มความเข้นข้นของสารอาหาร หรือให้รับประทานเสริมจนกว่าผู้ป่วยเริ่มมีความอยากอาหารมากขึ้นจึงเริ่มให้อาหารอ่อน เราสามารถนำผลไม้มาปั่นใส่นมและโยเกิร์ตเพื่อเพิ่มโปรตีนและพลังงานดังตัวอย่างสูตรที่ให้ไว้ หลังจากที่หายแล้วก็ควรจะระวังดูแลรักษาสุขภาพตับให้แข็งแรง ดังที่ได้แนะนำไว้ในฉบับที่แล้ว

ข้อแนะนำทางโภชนาการสำหรับผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ
- รับประทานอาหารหลากหลายจากอาหารหลัก 5 หมู่
- เลือกเนื้อลัวน ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ ปลา กุ้ง หอย ปู เป็นแหล่งของ โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี 12 ไนอะซิน บี1ธาตุเหล็ก ธาตุเหล็ก สังกะสี และซีลีเนียม
- ข้าว ขนมปัง ธัญพืชต่างๆ เป็นแหล่งของ คาร์โบไฮเดรต ธาตุเหล็ก วิตามินบี 1และบี 2 ไนอะซิน และใยอาหาร
- ผลไม้และผักต่างๆ เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ(วิตามินเอ ซี และอี) ธาตุเหล็ก โฟเลท และใยอาหาร
- นมและผลิตภัณฑ์นม เป็นแหล่งของ โปรตีน แคลเซียม วิตามินบี 2 ไนอะซิน โฟเลท วิตามินเอ วิตามินบี 12 และวิตามินดี
- รับประทานอาหารให้ได้พลังงานเพียงพอแต่ไม่มากเกินไป โดยแบ่งอาหารออกเป็นมื้อเล็ก ๆ (4-5) มื้อตลอดวัน
- รับประทานอาหารโปรตีนให้เพียงพอเพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้ตับสร้างเนื้อเยื่อใหม่
- รับประทานผักและผลไม้หลากหลายมากขึ้นเพื่อให้ร่างการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอ
- เลือกอาหารที่มีวิตามินเอ และซีบ่อยขึ้น
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เพื่อป้องกันอันตรายต่อตับและช่วยให้ตับได้ฟื้นฟูสภาพ
- จำกัดอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง
- รับประทานอาหารให้สมดุลกับพลังงานที่ใช้

ตัวอย่างสูตรอาหารโปรตีนสูง พลังสูง
ส้มปั่นโปรตีนสูง สำหรับ 1 ที่

เครื่องปรุง

โยเกิร์ตไขมันต่ำรสธรรมชาติ 3/4 ถ้วยตวง
นมผงขาดมันเนย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มคั้น 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำ
นำเครื่องปรุงทั้งหมดปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกันจะได้เครื่องดื่มประมาณ 300 ซีซี

คุณค่าทางโภชนาการ

พลังงาน 262 แคลอรี่
คาร์โบไฮเดรต 51 กรัม
โปรตีน 11 กรัม
ไขมัน 2 กรัม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.healthandcuisine.com/detail.aspx?id=1704#.VKKm2ALYdA

No comments:

Post a Comment