Monday, October 19, 2015

การหายใจ อย่างถูกวิธี

การหายใจนั้นถือเป็นกลไกลอย่างหนึ่งของธรรมชาติที่มนุษย์เรามีมาตั้งแต่เกิด แต่ถ้าเราหายใจอย่างถูกวิธีก็จะสร้างคุณประโยชน์ให้กับร่างกายได้อย่างมากมาย แต่ในทางกลับกันถ้าเราหายใจอย่างผิดวิธีก็จะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายได้มากเช่นกัน

ผลเสียของการหายใจผิดวิธี
หากเราเป็นคนที่หายใจเร็วและตื้นเกินไปจะทำให้เราสูดออกซิเจนเข้าไปได้น้อย มีผลให้เลือดในปอดถูกฟอกได้น้อยตามไปด้วย และยังกลายเป็นการสะสมคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดแทน ส่งผลให้เซลล์ในร่างกายไม่แข็งแรงอีกทั้งยังเป็นสาเหตุของการเกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายอ่อนแอเกิดภูมิคุ้มกันบกพร่องและมีปัญหาแก่ก่อนไว

ผลดีของการหายใจถูกวิธี
แต่ถ้าเราหายใจอย่างถูกต้องด้วยการหายใจเข้าทางจมูกให้เต็มปอด สังเกตุคือหน้าท้องจะพองจากนั้นกลั้นลมหายใจไว้ประมาณ 2 ถึง 3 วินาที แล้วหายใจออกช้าๆ พร้อมกับแขม่วช่องท้องเล็กน้อยเพื่อเป็นการขับคาร์บอนไดออกไซด์ ออกจากร่างกายให้มากที่สุดทำให้ออกซิเจนเข้าไปฟอกเลือดในปอดได้นานขึ้น และยังทำให้บรรเทาอาการหอบหืด ไซนัส ลดสาเหตุในการเป็นวัณโรค คลายความเครียด และยังเป็นการดูแลสุขภาพของเราจากภายในสู่ภายนอก ที่นอกจะส่งผลต่อจิตใจแล้วยังช่วยให้อายุยืนยาวอีกด้วย
การหายใจ เข้าและออกอย่างถูกวิธียังสามารถทำให้เกิดสมาธิเบื้องต้นที่เรียกว่า อานาปานสติ หรือการกำหนดลมหายใจได้อีกด้วยน่ะครับ

Saturday, October 17, 2015

ระวัง!! ปวดหัวซื้อยา "ไมเกรน" ผิดอาจตาย พิการได้!!

ไมเกรนเป็นโรคปวดหัวชนิดหนึ่งที่พบไม่บ่อยแต่พบได้เรื่อยๆ
ปัญหาในประเทศไทยคือ หลายคนเรียกโรคนี้ว่าปวดหัวข้างเดียว ทำให้เกิดการเหมาไปว่าหากปวดหัวข้างเดียวแปลว่าเป็นไมเกรน ทั้งที่ความจริงแล้วปวดหัวข้างเดียวส่วนใหญ่เกิดจากการปวดกล้ามเนื้อหรืออวัยวะที่อยู่รอบๆศีรษะ

ยาในกลุ่ม Ergot ซึ่งใช้รักษาไมเกรนที่กินยาแก้ปวดชนิดอื่นไม่หาย เป็นยาที่รักษาไมเกรนได้ แต่ก็มีผลข้างเคียงที่ต้องระวังคือ มันมีฤทธิ์หดหลอดเลือดได้ ดังนั้นในกรณีได้ยามากเกินไปหรือยาออกฤทธิ์มากเกินไป ก็จะเกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้ เช่น แขนขาขาดเลือดจนต้องตัดทิ้ง หรือ เส้นเลือดสมองตีบ

โดยยาที่มีผลเสริมฤทธิ์ของยากลุ่ม Ergot ก็ได้แก่

1. Protease inhibitor เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวี

2. ยากลุ่มฆ่าเชื้อราชนิดรับประทาน

3. ยาฆ่าเชื้อในกลุ่ม Macrolide เช่น Clarithromycin

4. น้ำGrapefruit (ซึ่งทำให้อาจจะต้องระวังน้ำส้มโอไปด้วย)

5. ยาต้านอาการซึมเศร้าบางชนิด เช่นfluoxetine (บางตัวอยู่ในยากลุ่มที่ใช้ลดความอ้วน)
ปัญหามักจะไม่เกิดในโรงพยาบาลที่มีระบบสั่งจ่ายยาที่เข้มงวด เพราะว่าพอแพทย์สั่งยาไปแล้วเภสัชตรวจย้อนกลับไปว่ามีการสั่งยาErgotแก้ปวดไมเกรนก่อนหน้านั้น ก็จะระงับการสั่งจ่ายยาแล้วให้แพทย์พิจารณายาใหม่

แต่สำหรับบางกรณีที่มีการเก็บยาเอาไว้กินเองโดยไม่ได้แจ้ง หรือปวดหัวแล้วไปซื้อยามาเก็บไว้กินเอง ก็มีความเสี่ยงที่จะได้ยาใน5กลุ่มข้างบนไปแล้วกินไปพร้อมกันจนเกิดผลข้างเคียงได้

บางรายถูกตัดแขนขา
บางรายเป็นอัมพาต

ดังนั้น
หากปวดหัว ไม่ควรซื้อยาไมเกรนมากินเอง
หากป่วยไม่สบายไปรักษา โปรดแจ้งเภสัชและแพทย์เสมอว่ากินยาอะไรอยู่
เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่น่ากลัวจนถึงชีวิตนี้ได้

-- ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว ของ นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา หรือ หมอแมว แพทย์แผนกอายุรกรรม --

เรื่องดีๆมีสาระ
PEAR'S NATURAL

Wednesday, October 14, 2015

ลดสักนิด เพื่อชีวิตที่ดีกว่า

* ลดลง * ....แต่กลับได้ ....*มากขึ้น *

ลดความโกรธให้น้อยลง ฉันได้สติมากขึ้น

ลดค่าใช้จ่ายให้น้อยลง ฉันได้เงินเก็บมากขึ้น

ลดการพูดให้น้อยลง ฉันทำหลายอย่างได้มากขึ้น

รักตัวฉันเองให้น้อยลง คนอื่นรักฉันมากขึ้น

นอนให้น้อยลง ฉันได้ทำหลายอย่างมากขึ้น

คิดเรื่องเครียดให้น้อยลง ฉันยิ้มได้มากขึ้น

ลดความอายให้น้อยลง ฉันได้ความกล้ามากขึ้น

ดูละครให้น้อยลง ฉันอ่านหนังสือได้มากขึ้น

ฉันวิ่งให้ช้าลง ฉันมองเห็นคนข้างหลังมากขึ้น

เชื่อให้น้อยลง ฉันมองเห็นอะไรมากขึ้น

ลดทิฐิให้น้อยลง ฉันรู้จักอภัยมากขึ้น

กระโดดให้น้อยลง ฉันเดินได้มั่นคงมากขึ้น

กินให้น้อยลง ฉันอิ่มได้มากขึ้น

ก้มหน้าให้น้อยลง ฉันมองเห็นได้ไกลขึ้น

พักเหนื่อยให้น้อยลง ฉันรู้จักความสบายมากขึ้น

เห็นแก่ตัวให้น้อยลง มีคนรอดชีวิตมากขึ้น

แบกของหนักให้น้อยลง ชีวิตฉันเบามากขึ้น

เป่าลมออกน้อยลง ฉันสูดลมเข้าได้มากขึ้น

แอบฟังให้น้อยลง ฉันได้ยินอะไรมากขึ้น

ฉันคิดคำถามน้อยลง ฉันได้คำตอบมากขึ้น

ทะเลาะกับเด็กให้น้อยลง ฉันโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

ทะเลาะกับผู้ใหญ่ให้น้อยลง ฉันได้รับการเอ็นดูมากขึ้น

แสดงความฉลาดให้น้อยลง ฉันได้ความรู้เพิ่มมากขึ้น

คิดถึงคนที่ฉันรักให้น้อยลง ฉันเข้าใจคนที่ฉันรักมากขึ้น

พูดให้ร้ายคนอื่นให้น้อยลง มีคนพูดถึงฉันในแง่ดีมากขึ้น

ออกนอกบ้านให้น้อยลง ฉันได้ความอบอุ่นในครอบครัวมากขึ้น

ลดความคิดที่จะดูถูกให้น้อยลง ฉันได้รับคำตอบสำหรับทำเรื่องที่ถูกต้องได้มากขึ้น

*จะเห็นได้ว่าเราลดบางอย่างลง...แต่เรากลับได้บางอย่างเพิ่มมากขึ้นจริงๆ*

Tuesday, October 13, 2015

10 พฤติกรรมที่ทำแล้วอายุจะสั้นลง

1.สูบบุหรี่เเละดื่มสุรา ทั้งสองสิ่งนี้ส่งผลเสียต่ออวัยวะภายในและภายนอก ปอดและตับทำงานหนัก ทำให้แก่เร็วและเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง นำไปสู่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

2. เสพติดรสเค็ม มีงานวิจัยพบว่าคนที่ชอบกินอาหารเค็มจะมีอัตราการเกิดมะเร็งสูงกว่าคนที่กินอาหารรสจืด ดังนั้นควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการชอบของเค็มให้ลดน้อยลงก่อนที่จะสายเกินไป

3. นอนดึก เพราะการนอนดึกทำให้ไม่มีฮอร์โมนต้านมะเร็งหลั่งออกมาหรือหลั่งออกมาน้อยเกินไป และเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายอื่นๆ เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันสูง และโรคอ้วน เนื่องจากคนนอนดึกมักจะหิวและต้องหาอะไรมารับประทาน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน

4. เครียดจัด หรือเป็นโรคเครียดเรื้อรัง เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง อีกทั้งยังบั่นทอนชีวิตในทุกมิติ ทั้งเรื่องส่วนตัว ครอบครัว และหน้าที่การงาน

5. กลั้นปัสสาวะ อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าน้ำปัสสาวะเป็นของเสีย ยิ่งอยู่นิ่งเป็นเวลานานจากการอั้นจะทำให้กระเพาะปัสสาวะสะสมสิ่งเน่าเสีย ส่งผลให้เกิดมะเร็ง หรือทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้

6. ทานของร้อนจัด เช่น ชาร้อนหรือกาแฟร้อน ถ้าไม่ระวังอาจจะไปลวกเซลล์หลอดอาหารจนอักเสบ และมีโอกาสเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็ง ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ร้อนจัด รอให้อยู่ในระดับอุ่นๆ ก็พอ

7. ตากแดดบ่อยและนาน เสี่ยงมะเร็งผิวหนัง เพราะแสงแดดเป็นรังสีที่กระตุ้นเซลล์ให้แบ่งตัวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง กลายเป็นก้อนใหญ่ขึ้นได้ วิธีป้องกันคือหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแดดที่แรงจัด ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรทาครีมกันแดด กางร่ม หรือใส่เสื้อผ้าปกคลุมให้มิดชิด

8.กินแต่ยา หัวใจอาจสำคัญที่สุด แต่พระเอกของร่างกายคือ “ตับ” และอะไรก็ตามที่เข้าไปในร่างกาย ตับจะต้องกำจัดของเสียออก นั่นคือสาเหตุที่ไม่อยากให้คุณรับอะไรแย่ๆ เข้าตัว ที่สำคัญกว่านั้นการรับยาแก้ปวด แก้โน่นนี่นั่นก็เป็นตัวทำลายตับโดยตรง เก็บตับไว้เถอะคิดให้มากขึ้นนิดหนึ่ง ปวดหัวมากอาจเป็นเพราะคุณไม่ได้ดื่มน้ำเลยต่างหาก เลือดก็เลยหนืด สืบฉีดเลือดไปถึงสมองไม่ได้ ลองดื่มน้ำให้เยอะขึ้นแทนการกินยาแก้ปวด

9.หักโหม ทำงานไม่มีเวลาหยุด ทำงานจนลืมป่วย (ป่วยไม่ได้ เพราะไม่มีใครดูแลต่อได้) ในที่สุดคุณก็จะป่วยจริง ที่สำคัญงานที่ได้ก็ได้ผลไม่ดี เคล็ดลับคือเมื่อรู้สึกเหนื่อยใจแทบขาด ตาลืมไม่ขึ้น ให้งีบเลย ตื่นขึ้นมาสมองจะสดชื่นคิดอะไรได้ง่าย และใช้เวลาทำงานน้อยลง Work hard ไม่เวิร์กแล้ว

10.คิดทุกเรื่อง ข้อนี้ดูเหมือนจะไม่สำคัญ เเต่อย่ามองข้ามเด็ดขาด เพราะถ้าเราเลิกคิดเรื่องเครียดๆจะทำให้จิตใจสดชื่นเเจ่มใส ทำให้คุณมีทั้งร่างกายเเละจิตใจที่ดี เลิกคิด เลิกเครียด จะทำให้คุณอายุยืนมากขึ้น

Friday, October 9, 2015

ความลับของลมหายใจ

"หายใจลึกๆ เมื่อนึกได้"
_______________________
🍃ความลับของลมหายใจ....

     หนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ผู้นั่งสมาธิ อย่างสม่ำเสมอมีใบหน้าอ่อนกว่าวัย ก็เพราะ พวกเขาได้มีโอกาสฝึกหายใจ ให้ลึก ยาว และละเอียดบ่อยครั้งนั่นเอง ซึ่งนอกจากจะช่วย เพิ่มความสงบสุขในใจ และลดสารความเครียด ที่เรียกว่า"คอร์ซิตอล" (อันเป็นสาเหตุหลัก ของความแก่ชราก่อนวัยอันควร) แล้ว

การหายใจอย่างเต็มปอด ยังช่วยฟอกเลือด ที่นำพาออกซิเจน ไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของใบหน้าอย่างทั่วถึง และสม่ำเสมอ ทำให้ใบหน้า ดูมีน้ำมีนวล เต่งตึง สดใส อ่อนกว่าวัย

และสุดท้ายเลือดเหล่านั้น ก็ยังช่วยขับสารพิษตกค้างต่างๆ (detox) ออกจากอวัยวะ ทุกส่วนของร่างกาย และบนใบหน้าได้อย่างทั่วถึงอีกด้วย

จะสังเกตได้ว่า เวลาที่เราโกรธ กลัว ตกใจ เครียด หงุดหงิด กังวล หรือทุกข์ ลมหาย ใจของเราจะสั้นและตื้น

แต่เวลาที่เรามีความสุข สงบ มีพลัง นิ่ง สุขุม มั่นใจ สบายใจ ลมหายใจของเรา จะยาวและลึก.     

ทั้งนี้สิ่งที่หลายคนไม่รู้ก็คือ หากเราตั้งใจหายใจให้ยาว และลึกสัก 4-5 ครั้ง สมองของเราจะถูกหลอกว่า เรากำลังรู้สึกสบาย สุขุม และมีพลังเช่นกัน กระบวนการนี้เรียกว่า การทำ "Biofeedback" ( การป้อนกลับทางชีวภาพ) โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ.   

     เทคนิคการหายใจ ที่ดีคือ การหายใจอย่าง "ละเอียด" ซึ่งเป็นการหายใจให้...ช้า ลึกและเบา โดยสูดลมหายใจเข้า จนสุดปอด ให้หน้าท้อง และหน้าอกพองตัว จนไม่สามารถพองต่อไปได้อีก แล้วจึงค่อยๆ ปล่อยลมหายใจออก...ยาวๆ อย่างไม่รีบร้อน จนหมดทั้งปอด ทำเท่านี้เพียง 3-4 ครั้ง ก็จะ รู้สึกว่าร่างกายเริ่มเบา ใจเริ่มเย็น จิตเริ่มโล่ง และสมอง เริ่มปลอดโปร่งขึ้นแล้ว.     

ถามว่าต้องทำ และต้องฝึกบ่อยแค่ไหน คำตอบคือ "รู้ตัวเมื่อไหร่ ก็ทำเมื่อนั้น" หรือทำทุกครั้ง ที่รู้สึกว่าจิตเริ่มตก คือ เริ่มกลัว โกรธ กังวล เหนื่อย เครียด เบื่อ เซ็ง ท้อ ทุกข์  

ชีวิตของคนเรา แท้จริงอยู่ได้ด้วยลมหายใจ ที่เชื่อมต่อกัน และการหายใจ ที่ดีก็เป็นเครื่องมือ ในการสร้างจิตใจที่สงบ สร้างชีวิตที่ประสบความสำเร็จ และสร้างสุขภาพ ให้ยืนยาวที่ง่ายที่สุด.   

หลายคนเสียเงินทองมากมาย ไปกับการเข้าคอร์สบริหารจิต หรือปลุกพลังต่างๆ ในราคาแสนแพง โดยลืมหันกลับ มาหา...

  🍃  สิ่งมหัศจรรย์อันล้ำค่า ที่อยู่ตรงปลายจมูกของเรานี่
ขออนุญาต(ส่งต่อข้อมูลอันล้ำค่าต่อชีวิตผู้มีโอกาสได้รับรู้ ด้วยความยินดี)

ดร ภูมิธณะเกียรติ  ขอแบ่งปันเพื่อรับบุญจากมนุษย์โลกครับ