Wednesday, June 24, 2015

นมถั่วเหลืองผสมมะนาว อาหารเสริมอายุวัฒนะ

ดื่มน้ำนมถั่วเหลือง + ผสมน้ำมะนาวช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ขอขอบคุณ...นพ.สมเกียรติ อธิคมกุลชัย
จักษุแพทย์ โรงพยาบาลเอกชัย จ.สมุทรสาคร

นพ.สมเกียรติ...ได้แนะนำคนไข้ดื่มน้ำนมถั่ว เหลือง + ผสมน้ำมะนาว

อาหารเสริมอายุวัฒนะ

ส่วนผสม..>>

น้ำนมถั่วเหลือง 1 กล่องหรือน้ำเต้าหู้ 1 ถุง ไม่ใส่น้ำตาล ไม่เย็น
ไม่ร้อน บวกกับมะนาว 1 ลูกแล้วคนให้เข้ากัน จนได้เป็นลักษณะคล้ายโยเกิร์ตเหลว ดื่มเป็นประจำวันละ 1 แก้ว

สรรพคุณโดยรวมเป็นอาหารเสริมที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพของร่างกาย สมอง และ สายตา หากดื่มเป็นประจำทุกวัน มีสรรพคุณที่โดดเด่น
ดังต่อไปนี้คือ

1. ช่วยให้ระบบเส้นเลือดฝอยทั่วร่างกายมี ความยืดหยุ่นดีไม่เปราะหรือแตกง่ายดังนั้น คนที่มีปัญหาเส้นเลือดฝอยเปราะ แตกง่าย และ
มีเลือดออกตามร่างกายเช่น เลือดออกที่ ใต้เยื่อบุตาขาว หรือในผู้หญิงที่มักจะเกิด รอยจ้ำเขียวช้ำเวลาถูกกระทบกระแทก หรือในผู้สูงอายุที่มักจะมีเลือดออกใต้ผิวหนัง ก็ ช่วยให้ดีขึ้น และยังเชื่อว่าสามารถป้องกันโรค เส้นเลือดในสมองตีบตันหรือแตกได้เช่นกัน (ป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต)

2. ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำให้ สุขภาพแข็งแรง ต้านทานโรคติดเชื้อได้ดี ไม่เจ็บป่วยง่ายเช่น ในคนที่เป็นโรคเริมที่
ริมฝีปากหรือบริเวณอวัยวะเพศจะช่วยลดหรือหยุ ดการกำเริบซ้ำได้หรือในรายที่ภูมิคุ้มกันไม่ ค่อยดีเป็นไข้ ไอ เจ็บคอบ่อยๆ ก็จะช่วยให้อัตราการป่วยลดลงได้เช่นกัน

3. ช่วยส่งเสริมระบบไหลเวียนเลือด ทำให้ อวัยวะต่างๆของร่างกายทำงานได้เต็มที่ สมอง แจ่มใส ไม่มึนงง ร่างกายสดชื่น ( ผู้สูงอายุที่มี อาการมึนงง เซื่องซึม และเดินเซ จะเห็นการ เปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นชัดเจน )สามารถทนต่อ การทำงานตรากตรำที่ต้องอดหลับอดนอน ได้ดีขึ้น เช่น นักเรียน นิสิตนักศึกษาที่ต้อง คร่ำเคร่งใช้สมองทบทวนตำราใกล้สอบหรือผู้ที่ต้องทำงานหรือขับรถทางไกลในเวลาค่ำคืนเป็นประจำ

4. ช่วยให้เนื่อเยื่อต่างๆของร่างกายแข็งแรง สามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ดี บาดแผลทุกชนิดจะหายเร็วขึ้น และช่วยให้ รากผมแข็งแรง บรรเทาปัญหาผมร่วงในหญิง วัยทองได้

5. เมื่อสุขภาพโดยรวมดีขึ้น ก็จะทำให้สมร รถภาพทางเพศดีตามไปด้วย

6. จากคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ของวิตามินซีในมะนาว และ สารไอโซฟลาโวนในถั่วเหลือง ทำให้เชื่อได้ว่า การดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้เป็นประจำ อาจจะป้องกันโรคมะเร็งได้อีกด้วย

หมายเหตุ...>>>

สูตรอาหารเสริมอายุวัฒนะดังกล่าว ผ่านการ เก็บข้อมูลและพิสูจน์จากผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี

มีความประสงค์ที่จะเผยแพร่เป็นวิทยาทาน เพื่อสุขภาพที่ดีของมวลมนุษยชาติ ได้จดอนุสิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สินทาง ปัญญาเอาไว้แล้ว หากผู้ใดนำสูตรดังกล่าว ไปทำประโยชน์ทางธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญา ติจะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย

นายแพทย์ สมเกียรติ อธิคมกุลชัย..>>11 ธค. 2552

** ล่าสุด ได้แนะนำให้ผู้ป่วยโรคเอดส์หญิงที่ มีสุขภาพย่ำแย่

หลังจากแนะนำให้ดื่มนมไวตามิลค์ผสมมะนาว ทุกวัน 4 เดือนต่อมา ผู้ป่วยกลับมาด้วยสภาพ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงไม่แตกต่างจากคนทั่ วไป ผมหนาดกดำ ฝ้าที่หน้าจางหา ยหมดน้ำ หนักเพิ่มขึ้นกว่า 10 กิโลกรัม

ผิวหนังที่แขนขาเป็นปกติ ฝ้าขาวที่ลิ้นหาย หมด ทานอาหารเผ็ดได้ และไม่เจ็บไม่ไข้อีก เลยผู้ป่วยยืนยันว่าหลังจากดื่มเครื่องดื่ม ดังกล่าว สภาพร่างกายก็เริ่มฟื้นตัว ดีวันดี คืนจนขณะนี้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนจะป่วย

-—-------------++---+++

จากการลองทำดื่มประจำตอนเช้ารู้สึกชอบรสเหมือนโยเกริต และรู้สึกกระปรี่กระเปร่ามีกำลังวังชาขึ้น ผิวพรรณที่หย่อนคล้อยก็เด้งกระชับขึ้นเวิร์คค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=imaginer&month=06-2013&date=26&group=3&gblog=108
http://raksukhaphab.blogspot.kr/2013/10/blog-post_163.html

Tuesday, June 23, 2015

นั่งไขว่ห้าง สาเหตุอาการปวดต่างๆ

นั่งไขว่ห้าง...นั่นแหละสาเหตุ

ใครปวดขา ปวดตัว แล้วคิดว่าสาเหตุเป็นเพราะนั่งทำงานหน้าคอมฯ อยากให้ลองเลิก 'นั่งไขว่ห้าง' แล้วดูว่าอาการปวดของคุณ ดีขึ้นหรือไม่

ใครที่บ่นปวดขา ปวดหลัง ปวดคอ และเชื่อว่าอาการปวดเหล่านั้น ล้วนเกิดจากการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน คงจะต้องคิดทบทวนดูใหม่ เพราะแม้การนั่งหน้าคอมฯทั้งวันจะทำให้ปวดเมื่อยอยู่บ้าง แต่คุณลองถามตัวเองหรือยังว่า คุณนั่งไขว้ห้าง ตอนพิมพ์งาน หรือ เล่นอินเตอร์เน็ตหรือเปล่า...?

การนั่งไขว่ห้าง อาจเป็นท่านั่งสบายๆ สำหรับหลายคน ซึ่งจริงๆ แล้วการนั่งไขว่ห้าง คือ ท่านั่งที่ถ่ายน้ำหนักไปด้านใดด้านหนึ่งซ้ำๆ เป็นเวลานานๆ ดังนั้นระหว่างที่เรานั่งไขว่ห้าง เส้นเลือดใหญ่ที่ต้นขาทั้งสองจะถูกแรงของขาทั้งสองบีบเอาไว้ให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น เพราะต้องสูบฉีดเลือดให้ร่างกายลำเลียงไปเลี้ยงส่วนต่างๆให้ทั่วถึง

และนอกจากการนั่งไขว่ห้างจะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย ตั้งแต่ปวดเมื่อยเล็กน้อยไปจนถึงโรคปวดเรื้อรังแล้ว ในบางรายยังมีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืดหลังลุกจากท่านั่งไขว่ห้างนานๆ หรือ อาจมีอาการปวดบวมที่ขาทั้งสองข้างด้วย

ดังนั้น การป้องกันจึงไม่ควรนั่งในท่าที่ทิ้งน้ำหนักตัวไปข้างใดข้างหนึ่งมากเกินไป หรือ หากจะนั่งไขว่ห้างก็ควรสลับเปลี่ยนด้านบ่อยๆ เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียต่อสุขภาพ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก... VoiceTV

Thursday, June 4, 2015

อาหารสำหรับโรคตับอักเสบ

โรคตับอักเสบเกิดจากเชื้อไวรัสหลายชนิด เชื้อไวรัสจะทำให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลันและทำลายเซลล์ตับ ในรายที่อาการไม่รุนแรงและได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ เซลล์ตับจะฟื้นตัวได้ แต่ถ้าอาการรุนแรง จะทำให้เซลล์ตับตาย เนื้อเซลตับที่ดีเหลือน้อยลง ทำให้ตับเกิดโรคตับแข็งได้

การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบ
ผู้ป่วยจำเป็นจะต้องนอนพักไม่ออกแรง มิฉะนั้นจะทำให้อาการรุนแรงขึ้น และใช้เวลารักษานานขึ้น ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับของเหลววันละ 3000-3500 มิลลิลิตร เพื่อป้องกันการขาดน้ำและจะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นมีความอยากรับประทานอาหารมากขึ้น นอกจากนี้การได้รับโภชนาการเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ตับฟื้นตัวเร็วขึ้นและผู้ป่วยมีกำลังวังชามากขึ้น
ผู้ป่วยที่มีอาการตับอักเสบเฉียบพลัน จะค่อย ๆ ทุเลาขึ้นเองเมื่อพักผ่อนและรับประทานอาหารให้พอเพียง ผู้ป่วยบางรายเข้าใจว่าการดื่มน้ำหวานในปริมาณมาก ๆจะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะการรับประทานน้ำตาลมากๆจะทำให้น้ำตาลเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในตับ และอาจทำให้ตับโตได้

โภชนบำบัดสำหรับโรคไวรัสตับอักเสบ
อาหารที่ผู้ป่วยได้รับขึ้นกับระดับความรุนแรงของโรคแและโรคแทรกซ้อน สารอาหารที่สำคัญที่จะต้องดูแลสำหรับโรคตับอักเสบได้แก่ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต โซเดียม (เกลือ) และ แอลกอฮอลล์
โปรตีน จำเป็นต้องได้รับเพียงพอ วันละ 100-150 กรัม เพื่อการสร้างเซลล์ใหม่ของตับ และควรเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ในกรณีที่มีอาการรุนแรงเฉียบพลัน และระดับแอมโมเนียในเลือดสูง โปรตีนจะได้รับการจำกัดในระดับต่ำๆเช่นเดียวกับโรคตับแข็ง
คาร์โบไฮเดรต ผู้ป่วยตับอักเสบต้องการคาร์โบไฮเดรตสูงประมาณ 300-400 กรัม/วัน เพื่อให้พลังงานพอเพียงกับที่ร่างกายต้องการและมีไกลโคลเจนสะสมเพียงพอ และช่วยให้ร่างกายได้นำโปรตีนไปใช้ในการเสริมสร้างเนื้อเยื่อที่จำเป็นต่อร่างกาย คาร์โบไฮเดรตที่รับประทานควรเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดที่มีกากใยอาหารมากกว่าคาร์โบไฮเดรตประเภทน้ำตาล
ไขมัน อาหารควรมีไขมันในปริมาณปานกลางวันละประมาณ 80-100 กรัม ไขมันจะช่วยเพิ่มรสชาดลดอาการเบื่ออาหารซึ่งมักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโรคตับอักเสบ กรณีที่ผู้ป่วยมีความผิดปกติในการดูดซึมไขมัน แพทย์จะให้ไขมันที่มีโครงสร้างของกรดไขมันสายสั้นปานกลาง เช่น ไขมันเอ็มซีที (MCT) เป็นระยะเวลาสั้นๆจนกว่าอาการจะดีขึ้น
พลังงาน ผู้ป่วยโรคตับอักเสบจำเป็นต้องได้รับพลังงานสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะที่มีปัญหาทุพโภชนาการ ความต้องการพลังงานวันละประมาณ 2500-3000 กิโลแคลอรี เพื่อให้เพียงพอต่อการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ชดเชยกับพลังงานที่สูงขึ้นเมื่อร่างกายมีไข้และเพื่อให้ผู้ป่วยมีกำลังเพิ่มขึ้น
วิตามินและเกลือแร่ ร่างกายมีความต้องการวิตามินและเกลือแร่บางชนิดสูงขึ้น แพทย์จะทำการเสริมให้ผู้ป่วยตามความเหมาะสม
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบต้องงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
ในระยะที่รับการรักษา ผู้ป่วยจะมีอาการเบื่ออาหาร จำเป็นที่ต้องให้อาหารเหลว อาจผสมอาหารทางการแพทย์เพื่อเพิ่มความเข้นข้นของสารอาหาร หรือให้รับประทานเสริมจนกว่าผู้ป่วยเริ่มมีความอยากอาหารมากขึ้นจึงเริ่มให้อาหารอ่อน เราสามารถนำผลไม้มาปั่นใส่นมและโยเกิร์ตเพื่อเพิ่มโปรตีนและพลังงานดังตัวอย่างสูตรที่ให้ไว้ หลังจากที่หายแล้วก็ควรจะระวังดูแลรักษาสุขภาพตับให้แข็งแรง ดังที่ได้แนะนำไว้ในฉบับที่แล้ว

ข้อแนะนำทางโภชนาการสำหรับผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ
- รับประทานอาหารหลากหลายจากอาหารหลัก 5 หมู่
- เลือกเนื้อลัวน ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ ปลา กุ้ง หอย ปู เป็นแหล่งของ โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี 12 ไนอะซิน บี1ธาตุเหล็ก ธาตุเหล็ก สังกะสี และซีลีเนียม
- ข้าว ขนมปัง ธัญพืชต่างๆ เป็นแหล่งของ คาร์โบไฮเดรต ธาตุเหล็ก วิตามินบี 1และบี 2 ไนอะซิน และใยอาหาร
- ผลไม้และผักต่างๆ เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ(วิตามินเอ ซี และอี) ธาตุเหล็ก โฟเลท และใยอาหาร
- นมและผลิตภัณฑ์นม เป็นแหล่งของ โปรตีน แคลเซียม วิตามินบี 2 ไนอะซิน โฟเลท วิตามินเอ วิตามินบี 12 และวิตามินดี
- รับประทานอาหารให้ได้พลังงานเพียงพอแต่ไม่มากเกินไป โดยแบ่งอาหารออกเป็นมื้อเล็ก ๆ (4-5) มื้อตลอดวัน
- รับประทานอาหารโปรตีนให้เพียงพอเพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้ตับสร้างเนื้อเยื่อใหม่
- รับประทานผักและผลไม้หลากหลายมากขึ้นเพื่อให้ร่างการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอ
- เลือกอาหารที่มีวิตามินเอ และซีบ่อยขึ้น
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เพื่อป้องกันอันตรายต่อตับและช่วยให้ตับได้ฟื้นฟูสภาพ
- จำกัดอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง
- รับประทานอาหารให้สมดุลกับพลังงานที่ใช้

ตัวอย่างสูตรอาหารโปรตีนสูง พลังสูง
ส้มปั่นโปรตีนสูง สำหรับ 1 ที่

เครื่องปรุง

โยเกิร์ตไขมันต่ำรสธรรมชาติ 3/4 ถ้วยตวง
นมผงขาดมันเนย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มคั้น 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำ
นำเครื่องปรุงทั้งหมดปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกันจะได้เครื่องดื่มประมาณ 300 ซีซี

คุณค่าทางโภชนาการ

พลังงาน 262 แคลอรี่
คาร์โบไฮเดรต 51 กรัม
โปรตีน 11 กรัม
ไขมัน 2 กรัม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.healthandcuisine.com/detail.aspx?id=1704#.VKKm2ALYdA