"หยุดซ่อมคน และปลูกนาฬิกา"
ถ้าจะแบ่งประเภทของ "สิ่ง" บนโลกใบนี้ออกคร่าวๆที่สุด
ก็คงจะแบ่งได้สอง "สิ่ง" คือ:
1. สิ่งมีชีวิต
2. สิ่งไม่มีชีวิต
เมื่อสิ่งไม่มีชีวิตเกิดพัง หรือทำงานไม่ได้ดั่งใจเรา เราจะทำการ "ซ่อม" มัน เช่นเวลารถพัง บ้านพัง หรือนาฬิกาพัง
ถ้าเราอยากให้มันกลับมาทำงานดั่งใจต้องการอีกครั้ง
เราต้องใช้ "กำลัง" ในการบังคับซ่อมแซม การทิ้งนาฬิกาที่แตกเอาไว้เฉยๆ
จะไม่ทำให้มันประกอบขึ้นมาเองเป็นนาฬิกาใหม่...
การปล่อยรถที่พังเอาไว้เป็นปีๆ มีแต่จะทำให้มันผุพังยิ่งกว่าเดิม...
และหากหลังคาบ้านเราเป็นรู การนั่งเฝ้าดูมันทุกวัน
ก็จะไม่ช่วยทำให้รูนั้นหายไป...
ถ้าเราอยากจะซ่อมหรือเปลี่ยนแปลง "สิ่งไม่มีชีวิต"
ให้อยู่ในสภาพที่ดีกว่าเดิม เราต้องใช้การลงมือ ลงแรง และลงกำลัง
ปัจจัยด้านการรอเวลา สร้างสภาพแวดล้อม หรือการให้ความรัก
ไม่เกี่ยวกับการซ่อมแซม "สิ่งไม่มีชีวิต" ให้ใช้งานได้
นี่คือหลักการซ่อมเครื่องจักร ที่เรามักรู้กันอยู่แล้ว
แต่ปัญหาคือ เรามักจะเอาวิธีการเดียวกันนั้นไป "ซ่อม" สิ่งที่มีชีวิต...
ถ้าเราอยากให้ต้นกล้าโตไวๆ การเดินไปดึงมันขึ้นมาแล้วบอกว่า
"เห้ย! โตเร็วๆสิแก!" จะทำให้มันตายทันที
ถ้าเราอยากให้ไก่ออกไข่เยอะๆ เราสามารถฉีดสารเร่งได้
แต่มันจะทำให้ทั้งไก่และคนกินไก่ป่วย เป็นโรคสารพัด
ไม่สมประกอบ และอาจถึงตายได้ทั้งไก่และคน
ตั้งแต่ฟาร์มเห็ดไปจนถึงเป็ดเลี้ยง
การ "บังคับ" สิ่งมีชีวิตให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
หรือใช้แรงในการบังคับให้มันเติบโตตามที่ใจเราต้องการ
ไม่เคยให้ผลดีในระยะยาว...
การบังคับใจคน อาจทำให้เราได้ในสิ่งที่ต้องการตอนนี้
แต่ต่อไปความอัดอั้นตันใจนั้น จะสะสมเป็นความเครียด
ความเกลียด ความแค้น ความเศร้า ความทุกข์ การหลอกลวง
คำโกหก และความสกปรกนานัปการ
ถ้าอยากให้ต้นกล้าโตไวๆและงดงาม
เราทำได้เพียง "สร้างสภาพแวดล้อม" ที่ดีที่สุดให้มัน
รดน้ำ ใส่ปุ๋ย พรวนดิน จากนั้นก็ "ปล่อย" ให้มันโตตามเวลาของมัน...
ถ้าเราอยากให้ไก่แข็งแรงและออกไข่เยอะๆ
เราทำได้เพียงให้อาหารที่เหมาะสม ให้น้ำ ให้ที่อยู่
สร้างที่วิ่งเล่นออกกำลังกาย และให้ความรักความเอาใจใส่
จากนั้นก็ "ปล่อย" ให้มันได้เติบโตตามเวลาของมัน
ถ้าเราอยากให้ใครสักคนรักเรา เราไม่มีทางบังคับจิตใจเขาได้
ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นลูก พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง หรือแฟนของเรา
ยิ่งบังคับ ความรักยิ่งไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะหลุมของความรักต้องอาศัยการเดิน "ตก" ลงไปด้วยตัวเองเท่านั้น ไม่มีใคร "ถีบ" ใครลงหลุมของความรักได้
ฉะนั้น เราทำได้ดีที่สุดเพียง "สร้างสภาพแวดล้อม" ที่เหมาะสมสำหรับให้ความรักเติบโต ดูแล เอาใจใส่ ห่วงใย ให้เวลา สร้างความสุข สร้างความดี สร้างความจริงใจสร้างความอบอุ่น จากนั้นเราก็ทำได้เพียง "ปล่อย" ให้ความรักเติบโตงดงามตามเวลาของมันเอง
ไม่ต่างจากต้นไม้ทุกต้น และชีวิตทุกชีวิต...
ทุกๆ "ความสัมพันธ์" ก็ทำงานเหมือนกับสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง
ซึ่งก็หมายความว่ามันต้องอาศัยสมดุลระหว่างการ "ปลูก" และการ "ปล่อย" อย่างมีศิลปะ
ปัญหาของความสัมพันธ์แทบทุกชนิดบนโลกนี้ คือการที่ฝ่ายหนึ่งพยายาม "ซ่อม" อีกฝ่ายหนึ่งให้เป็นได้ดั่งใจ เพราะเรามองว่าเขากำลัง "พัง" อยู่
"คน" ไม่ใช่ "นาฬิกา" คนเป็นสิ่งมีชีวิต และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะเปลี่ยนแปลง และเติบโตอย่างงดงามได้ ก็ต่อเมื่อเราหมั่นสร้าง "สภาพแวดล้อม" ที่เอื้ออำนวยให้แก่สิ่งมีชีวิตนั้นได้เปลี่ยนแปลงด้วยตัวของมันเอง
จากนั้นเราก็ต้องหัดปล่อยวางให้เป็น...
ตราบใดที่เรายังพยายาม "ซ่อม" คน โดยการใช้เสียงที่ดังกว่า
ใช้วาจาเอาชนะ ใช้กำลัง ใช้แรง ใช้เงื่อนไข ใช้การบังคับ
หรือใช้อำนาจเพื่อเปลี่ยนแปลงเขาอยู่ เราก็มีสภาพไม่ต่างจากชาวนา ที่เอานาฬิกาหน้าปัดแตกไปปลูกไว้กลางทุ่งหญ้า
...แล้วบ่นว่ามันไม่ยอมซ่อมแซมตัวเองสักที...
อย่า "ดึง" ใครให้โต เพราะเขาจะ "ตาย" ช้าๆจากภายใน
สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การเติบโตและเปลี่ยนแปลง
ด้วยความรัก ความรู้ และการเป็นตัวอย่างที่ดี
แสดงให้เขา "เห็น" ในสิ่งที่เราอยากให้เขา "เป็น"
เริ่มปรับที่ตัวของเรา และสุดท้ายเขาจะซึมซับสิ่งดีๆจากเราไปเอง
ไม่ต่างจากต้นไม้ที่ซึมซับสารอาหารและน้ำจากสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ โดยไม่ต้องมีใครไปยืนดุด่าว่ากล่าว หรือบังคับมัน
คนคือสิ่งมีชีวิต และสิ่งมีชีวิตเติบโตด้วยการ "ซึมซับ"
ไม่ใช่ด้วยการ "บังคับ" จากใคร
และหากวันหนึ่งความสัมพันธ์ของเราพัง โปรดจำไว้ว่า...
"คนไม่ได้มีไว้ให้ซ่อม และนาฬิกาก็ไม่ได้มีไว้ให้ปลูก"
โปรดข้องเกี่ยวกับสอง "สิ่ง" นี้อย่างเหมาะสม
เพราะมันต้องอาศัยสองศาสตร์ที่แตกต่างกัน
เครื่องจักร ต้องใช้ "แรง" ในการปรับ
แต่หัวใจ ต้องใช้ "รัก" ในการเปลี่ยน
การใช้ "รัก" เปลี่ยนเครื่องจักร
และการใช้ "แรง" เปลี่ยนหัวใจ
คือการใช้ชีวิตอย่างไร้ศิลปะ
และชีวิตที่ใช้อย่างไร้ศิลปะ
ย่อมต้องปะทะกับความทุกข์
อยู่ตลอดเวลา...
ด้วยรัก ♥,
ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร.
No comments:
Post a Comment