ช่วงเวลาก่อนเข้านอน และหลังตื่นนอน เป็นช่วงเวลาที่เราได้อยู่กับตัวเอง เราก็ควรตักตวงความสุขจากช่วงเวลาเหล่านี้ มาเช็กกันว่า มีพฤติกรรมก่อนนอน และหลังตื่นนอนอะไรบ้าง ที่แค่สละเวลาเพียง 5 นาที ก็ทำให้แฮปปี้ได้ตลอดทั้งวัน
การนอนหลับสนิทตลอดคืน ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกสดชื่น … เชื่อว่ากิจวัตรประจำวันของใครหลายคนอาจไม่เป็นแบบนี้ บางคนทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งคืน บางคนมีเรื่องให้คิดจนนอนไม่หลับ หากชีวิตเป็นแบบนี้แค่วันสองวันคงไม่กระทบต่อสุขภาพกายใจเท่าไรนัก แต่ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันเราอาจมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลงได้ กระปุกดอทคอมจึงอยากแนะนำ 17 เคล็ดลับดี ๆ เปลี่ยนชีวิตให้แฮปปี้ขึ้น เพียงแค่ปรับพฤติกรรมการนอน และการตื่นนอนนิดหน่อยเท่านั้น มาอ่านกันเลย
8 สิ่งที่ควรทำก่อนนอน
การนอนหลับสนิทในตอนกลางคืนเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะส่งผลต่อสุขภาพกายและใจของเราด้วย ลองมาดู 8 สิ่งที่ควรทำก่อนนอน เพื่อชัตดาวน์ร่างกาย ให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่จริง ๆ
1. กินให้ง่วง
ความหิวเป็นศัตรูของความง่วง หากปล่อยให้ตัวเองหิว คงหลับไม่ลงแน่ ๆ ซึ่งวิธีกินให้ง่วงแบบไม่อ้วน ได้สุขภาพนั้นง่ายมาก นั่นคือ การเลือกกินอาหารที่มีสารสื่อประสาทกรดอะมิโนทริปโตเฟน และสารเซโรโทนิน เช่น เนยแข็งสด (Cottage cheese) กล้วย เชอร์รี และกีวี
2. ปิดไฟให้หมดทุกดวง
เราอยู่กับแสงสว่างมาเกือบตลอดทั้งวันแล้ว ก่อนเข้านอนก็ควรจะอยู่ในบรรยากาศที่มืด มีแสงน้อยบ้าง เพื่อส่งสัญญาณให้ระบบนาฬิกาชีวิตในร่างกายรู้ว่า เราจะพักผ่อนแล้ว โดยการนอนปิดไฟ งดเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นนอนเล่น สมาร์ทโฟน อ่านหนังสือจากแท็บเล็ต หรือแม้แต่นอนปิดไฟดูทีวี เป็นต้น
3. ปิดรับข่าวสารจากโลกดิจิตอล
หากอยากนอนแบบเต็มอิ่มตลอดทั้งคืน ก่อนเข้านอนประมาณ 1-2 ชั่วโมง ควรปิดรับการสื่อสารจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด โดยเฉพาะสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และไอแพด ด้วยการปรับโหมดการรับข้อความเป็น Airplane Mode แจ้งเตือนแบบสั่น หรือ ปิดเครื่องไปเลย วิธีนี้จะช่วยให้คลื่นสมองไม่ถูกรบกวนจากเสียงแจ้งเตือน เราก็จะนอนหลับได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องสะดุ้งตื่นกลางคันเพราะเสียงรบกวน
4. บริหารกายเล็กน้อย
การยืดเส้นยืดสายก่อนเข้านอน ช่วยให้เรานอนหลับได้ดีขึ้น หากใครที่เป็นคนหลับยาก ยิ่งต้องลองทำดู การขยับร่างกายนิด ๆ หน่อย ๆ ก่อนนอน เช่น ทำโยคะ ซิทอัพ กระโดดเชือก เล่นฮูลาฮูป ในเวลาประมาณ 10-15 นาที ถือเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ป้องกันการเกิดเป็นตะคริวและเส้นเอ็นหดเกร็งในขณะที่เราหลับ
5. ทำสมาธิ
เราใช้งานสมองมาตลอดทั้งวันแล้ว ก็ควรให้สมองได้พักผ่อนบ้าง ด้วยการทำสมาธิก่อนนอน แค่ลองนั่งหลับตา โดยไม่ต้องคิดอะไรนานประมาณ 10-15 นาที สมาธิจะช่วยลดทอนความรู้สึกด้านลบต่าง ๆ ที่อยู่ในใจเรา เช่น คิดมาก วิตกกังวล โกรธ เศร้าซึม เมื่อสมองไม่มีเรื่องต้องคิด ก็จะหลับง่ายขึ้น
6. เขียนบันทึก
การเขียนบันทึกเล็ก ๆ น้อย ๆ ถึงเรื่องราวที่เราประทับใจเพียงเรื่องเดียว ก็ช่วยผ่อนคลายจิตใจได้ ทำให้เราเข้านอนได้อย่างสบายใจ ไม่มีเรื่องราวให้รกหัว เพราะการเขียนบันทึก็เหมือนเป็นการระบายความรู้สึกอย่างหนึ่ง แนะนำว่า อย่าเขียนเยอะเกินไป เพราะจะดูเป็นคนไร้สาระ ควรเขียนให้พอดี ๆ แค่ประมาณ 1-3 บรรทัดก็พอแล้ว
7. นอนอย่างสบายที่สุด
การนอนที่ทำให้สุขภาพดีนั้น การนอนต้องมีคุณภาพด้วย หากใครที่แต่ละคืนนอนไม่ค่อยหลับเลย ลองเช็กดูว่า เรานอนด้วยความสบายที่สุดหรือไม่ เช่น สวมชุดนอนที่สบาย ไม่รัดตัว ผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่ม และหมอนข้างมีความนุ่ม ที่สำคัญคือต้องสะอาด ไม่มีฝุ่น ไม่มีสิ่งของวางเกะกะบนเตียงนอน รวมถึงบรรยากาศในห้องนอนที่ควรไม่มีแมลง หรือยุงคอยรบกวน
8. ฟังเพลงอะคูสติก (Acoustic)
การฟังเพลงทำนองสบาย ๆ รื่นหู ก็ช่วยให้เรานอนหลับฝันดี จากผลการวิจัยของประเทศจีนในปี 2012 เผยว่า การฟังเพลงประเภท Pink Nose หรือ เพลงที่มีคลื่นความถี่ต่ำ ซึ่งเพลงที่มีคลื่นความถี่ต่ำนั้นส่งผลดีต่อสมอง ช่วยเพิ่มการเรียนรู้และจดจำ อีกทั้งท่วงทำนองที่สบาย ๆ ฟังง่าย ทำให้สมองหลั่งสารเคมีแห่งความสุขออกมา เมื่อในสมองไม่มีเรื่องต้องคิด เราก็จะหลับง่ายขึ้น
9 สิ่งควรทำเมื่อตื่นนอน
กิจวัตรประจำวันหลังตื่นนอน ก็มีผลกระทบต่อคุณภาพการทำงานตลอดทั้งวันของเรา หากอยากเป็นคนที่มีคุณภาพ ลองทำตาม 9 เทคนิคเพิ่มความพร้อมให้ร่างกายจากเราดู
1. ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว
เมื่อเราตื่นนอนแล้ว อย่าเพิ่งเดินเข้าครัวชงกาแฟรสชาติเข้ม ๆ ดื่ม หรือกินอาหารเช้าแสนอร่อยในทันที ควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้ 1 แก้วก่อนเป็นอันดับแรก และควรเป็นน้ำอุ่น หรือ น้ำที่อุณหภูมิห้อง น้ำเปล่าจะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย ลดอาการงัวเงียได้
2. ฟิตร่างกายใน 5 นาที
หลังตื่นนอนแล้ว ลองสละเวลาสัก 5 นาที วอร์มอัพร่างกายให้ตื่นตัว พร้อมใช้งาน อาจเริ่มจากบิดขี้เกียจ ยืดแขน ยืดขา สะบัดมือและเท้า จากนั้นก็สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
3. เช็กตารางงานตัวเอง
ความพร้อมขั้นต่อไปที่ควรทำหลังตื่นนอนคือ เช็กอีเมล เปิดปฏิทิน หรือ เปิดดูตารางนัดหมาย เพื่อเตือนความจำว่า วันนี้ต้องทำอะไรบ้าง เราจะได้เตรียมตัวสำหรับสิ่งสำคัญนั้น ๆ
4. เขียนสิ่งที่ตั้งใจทำ
การจดบันทึกสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรละเลย เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น เราจะทำงานอย่างมีเป้าหมายมากขึ้น จัดการไปตามลำดับได้อย่างมีทิศทาง ข้อดีของการจดบันทึกคือ ช่วยเตือนความจำได้ว่าเราไม่หลงลืมทำสิ่งสำคัญ
5. คิดถึงคนรัก
ว่ากันว่า คนแรกที่เราคิดถึงหลังตื่นนอนตอนเช้านั้น เป็นคนสำคัญ ดูท่าจะจริง เพราะการคิดถึงคนที่เรารักในตอนเช้ามักทำให้เรามีความสุข รู้สึกกระชุ่มกระชวยหัวใจ ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว อาการเหล่านี้ล้วนเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานได้ดี
6. เข้าหาธรรมชาติ
หลังตื่นนอนแล้ว อย่าเพิ่งเปิดรับข่าวสารใด ๆ แต่ขอให้เข้าหาธรรมชาติ ปรับอารมณ์ของเราให้ดีขึ้นก่อน โดยการออกไปสูดอากาศยามเช้า ชื่นชมความงามของดอกไม้ และต้นไม้ใบหญ้า การได้มองสีเขียวจากธรรมชาติจะช่วยเพิ่มความสบายใจ มีอารมณ์ดี เบิกบานตลอดวัน
7. กอด
มีหลายงานวิจัยที่มีความเห็นตรงกันว่า การกอด เป็นวิธีการเพิ่มความสุขที่ง่ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการกอดคนรัก คนในครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงในบ้าน เมื่อกอดแล้วจะรับรู้ได้ว่า สมองเราปลอดโปร่ง คิดแต่สิ่งที่ดี ๆ มากขึ้น
8. ยิ้มให้ตัวเอง
การยิ้มให้ตัวเองหน้ากระจก เป็นเหมือนภูมิคุ้มกันจิตใจอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น การยิ้มแล้วมองดูตัวเอง ก็ทำให้เรามีความสุข แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เราจะได้คือ ความมั่นใจในตัวเอง ลองฝึกยิ้ม แล้วพูดถึงแต่สิ่งดี ๆ กับตัวเอง จะทำให้เรามีพลังใจในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างประหลาด ใครไม่เชื่อ เราขอแนะนำให้ลองทำดู
9. ฟังเพลงที่อยากฟัง
ทันทีที่เราลืมตาตื่นขึ้นมา สมองของเรายังไม่ทันประมวลเรื่องราวอะไรมากนัก ช่วงเวลานี้แหละที่เราควรเติมเรื่องดี ๆ ให้สมองได้จดจำ ด้วยการเปิดเพลงที่อยากฟัง จะช่วยให้เรารู้สึกเบิกบาน แจ่มใสไปตลอดทั้งวัน
ความสุขในชีวิตของเรานั้น แท้จริงแล้วไม่ต้องไขว่คว้าอะไรให้ยุ่งยากเลย แค่ลองปรับกิจวัตรประจำวันก่อนนอน และหลังตื่นนอนของตัวเองเท่านั้น ก็ทำให้ความสุขก็อยู่กับเรานานขึ้นแล้ว
Credit: kapook.com